วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ธุรกิจขายตรงบูมยอดสมาชิกแตะ 9 ล้านคน

ขายตรงมาแรง ตามเทรนด์โลก คนยึดเป็นอาชีพหลัก เสริมรายได้ แนะใช้กลยุทธ์
"ไดเร็คทู คัสซูเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง" ควบการสร้างแบรนด์

          นางภคพรรณ ลีวุฒินันท์ อุปนายกฝ่ายรัฐสัมพันธ์ สมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจขายตรงทั่วโลกมีแนวโน้มการเติบโตสูง แม้ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจขายตรงทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ยังคงมีอัตราเติบโต โดยเฉพาะอเมริกาเติบโตถึง 30-40% จากปีที่ผ่านมา ธุรกิจขายตรงมีมูลค่าถึง 4 ล้านล้านบาท โดยมีนักขายอิสระ 62 ล้านคนทั่วโลก เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ธุรกิจขายตรงในไทยมีมูลค่าตลาดรวม 4.7 หมื่นล้านบาท และมีผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจเป็นทั้งนักขายตรงอิสระ และสมาชิกที่ซื้อใช้สินค้าถึง 9 ล้านคน คิดเป็น 15% ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดยสาเหตุของการขยายตัวมาจากการยอมรับในธุรกิจขายตรงมากขึ้น ไม่ได้มองว่าเป็นอาชีพเสริมอีกต่อไป แต่จะมองว่าเป็นอาชีพหลักมากขึ้น

นพ.สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ ซีโอโอ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และที่ปรึกษาทางด้านการตลาด กลยุทธ์, การเงิน และบริหารงานบุคคล ให้กับบริษัทในกลุ่มธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขายตรงเป็น ช่องทางจำหน่ายที่มาแรง แต่การทำตลาดต้องไม่ยึดติดในรูปแบบเดิมๆ การเจาะตลาดแบบแยกเซ็กเมนเตชั่นในยุคนี้ไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องเช้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า หรือที่เรียกว่า "ไดเร็คทู คัสซูเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง" เป็นการทำตลาดเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง เพราะต่อไปลูกค้าคือคนที่ออกแบบผลิตผลิตภัณฑ์ ไม่ใช้เจ้าของสินค้าอีกต่อไป

ด้าน พญ.นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย กล่าวว่า การสร้างแบรนด์ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจขายตรง เพราะฉะนั้นต้องทำให้สินค้าเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคให้ได้ แต่อุปสรรคใหญ่การทำธุรกิจตอนนี้ การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ทำให้ผู้บริโภคไม่มีอารมณ์ในการจับจ่าย ทั้งที่แรงซื้อยังมีอยู่ อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าธุรกิจขายตรงในปีนี้ เติบโตได้ 5-7%

บทความโดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น