วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เทคนิคการบริหารทีมงานสู่ความสำเร็จ


         การทำธุรกิจเครือข่าย ให้ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องสร้างองค์กรหรือเครือข่าย ตามที่แผนการตลาดกำหนดไว้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง คน กับ คน โดยมีเป้าหมายและผลประโยชน์ร่วมกัน อัพไลน์ ไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะบังคับดาวน์ไลน์ ให้ทำตามคำสั่งได้เหมือนกับงานทั่วๆ ไป การบริหารองค์กรหรือเครือข่ายให้เติบโตอย่างต่อเนื่องได้นั้น อัพไลน์จะต้องมีศิลปะในการ บริหารทีมงาน จึงจะได้รับความร่วมมือจากดาวน์ไลน์ในองค์กร
          ดาวน์ไลน์ในสายงานนั้นแต่ละคนต่างจิต ต่างใจ ต่างพื้นฐาน ต่างฐานะ ต่างความรู้ ต่างประสบการณ์ ต่างวัย หรือถูกอบรม สั่งสอนมาไม่เหมือนกัน การทำงาน การสื่อสาร ย่อมมีปัญหา แต่เมื่อต้องมาทำงานร่วมกันเป็นทีม ศิลปะในการบริหารทีมงาน จะช่วยแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ผู้ทำหน้าที่ ครองคนได้ดีก็จะประสบความสำเร็จได้ง่ายในธุรกิจเครือข่าย

          การครองคนก็คือการสร้างความผูกพัน สร้างสายสัมพันธ์ ที่ดีต่อกันและกันเป็นแนวทางในการสร้างทีมให้เป็นกลุ่มใหญ่ในอนาคต มีหลักในการครองคนดังนี้
          1. ต้องครองใจให้ทีมงานรัก หากสามารถครองใจดาวน์ไลน์ในองค์กรได้แล้วก็ถือว่า ประสบความสำเร็จ ปัญหา อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรจะครองใจทุกๆ คน การทำตนเองให้เป็นคนดีทั้งปากและใจ การทำสิ่งที่ดีต่อทุกๆคน ทั้งคนที่ท่านชอบ และไม่ชอบ จงทำดีต่อเขาก่อน ทำดีกับเขาทุกๆ ครั้งที่ได้พบ ทำอย่างสม่ำเสมอ จงให้สิ่งที่ดีต่อเขาก่อน เมื่อเขาเห็นความดีของท่าน ความรัก ความชอบ ความศรัทธาก็จะเกิดตามมา การบริการงานก็จะง่ายขึ้น

          2. ต้องคอยสร้างความสามัคคี ความสมัครสามัคคีเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตามเมื่อเริ่มมีการแตกแยกในทีมงาน คนที่จะเป็นกาวใจที่ดีที่สุด คือ อัพไลน์ หากอัพไลน์ไม่สามารถเชื่อมใจดาวน์ไลน์ ให้เข้าหากันได้ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ การพูดจาถึงดาวน์ไลน์ต้องระมัดระวังคำพูด ที่จะก่อให้เกิดการแตกแยกหรือเกิดการเข้าใจผิด เรียกง่ายๆ คือ คิดก่อนพูด และหากมีการเข้าใจผิดหรือปัญหาในองค์กร ต้องเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่ดี อย่าปล่อยให้มีการเข้าใจผิด เรื่องเล็กๆ น้อยๆ นั้นอาจบานปลายจนไม่สามารถควบคุมได้

          3. ต้องมีใจเป็นผู้ให้ การให้ในที่นี้เป็นการให้ที่ไม่ทำให้ท่านเดือดร้อนในภายหลัง คนที่คิดครองใจผู้อื่นต้องฝึกเป็นผู้ให้ คน ที่ไม่เคยให้อะไรกับใครเลย ย่อมไม่สามารถครองใจผู้อื่นได้เลยและที่สำคัญที่สุดก็คือ การให้ต้องให้ด้วยใจ ผู้รับจะรู้สึกซาบซึ้ง ไม่ใช่ให้เพราะต้องการสิ่งตอบแทน หรือให้เพราะไม่ต้องการของสิ่งนั้นแล้ว

          4. การใช้วาจาที่น่ารัก การมีวาจาที่ไพเราะเป็นสิ่งที่ครองใจคนมามากมาย คำพูดสามารถเปลี่ยนสิ่งต่างๆ เปลี่ยนอารมณ์ของผู้ฟัง อัพไลน์ที่รู้จักการใช้วาจาคำพูด กับ ดาวน์ไลน์ ให้ ถูกกาลเทศะ และ ถูกใจของแต่ละคน ก็จะทำให้ดาวน์ไลน์เกิดความศรัทธา และยอมรับ

          5. ต้องตระหนักเรื่องเกียรติและศักดิ์ศรี ต้องปฎิบัติต่อดาวน์ไลน์ทุกคนอย่างมีเกียรติ ให้เกียรติกับเขา ไม่ว่าดาวน์ไลน์นั้นจะมาจากชนชั้นใดก็ตาม คนทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ดาวน์ไลน์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้ธุรกิจเติบโต การให้เกียรติกับทีมงานนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งเพราะดาวน์ไลน์จะได้ความรู้สึกดีๆ ความรู้สึกภาคภูมิใจ การที่อัพไลน์ไม่ถือตัว ปฎิบัติต่อเขาเหมือนกับคนที่มีบุญคุณกับท่าน ดาวน์ไลน์จะทำงานอย่างเต็มใจ ทำจากใจ งานที่ได้ก็จะยิ่งมีคุณภาพ ส่วนคนที่ไม่ให้เกียรติดาวน์ไลน์ เย่อหยิ่ง จองหอง คอยออกคำสั่งหรือตำหนิ นอกจากดาวน์ไลน์จะไม่ชอบแล้ว อาจจะเลิกทำธุรกิจไปเลย

          6. ต้องหวังดีกับทุกคน อัพไลน์ที่ครองใจดาวน์ไลน์ ต้องเป็นคนใจกว้าง หวังดีต่อทุกๆ คน อยากเห็นดาวน์ไลน์ ประสบความสำเร็จ มีชีวิตในอนาคตที่ดีกว่าเดิม คอยช่วยเหลือแนะนำ หรือหาวิธีการต่างๆ ที่จะพัฒนาดาวน์ไลน์ให้ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป ต้องคิดถึงตัวเองเป็นคนสุดท้าย การ หวังดีต่อดาวน์ไลน์หลายๆ ระดับจึงเสมือนกับการแสดงความเป็นผู้นำไปในตัว และสิ่งที่ต้องสำนึกตลอดเวลา คือ ความยุติธรรม ไม่ลำเอียงกับใครทั้งสิ้นจะได้ไม่เกิดการติฉินนินทาจากดาวน์ไลน์ ธุรกิจก็จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
          7. ต้องไม่ฉ้อฉลเอาเปรียบ หากคิดที่จะครองใจคนก็ต้องรู้จักการเสียเปรียบบ้างแล้วก็จะครองใจคนได้อย่างถาวร อัพไลน์ ที่อยากมีรายได้เพิ่มจนคิดฉ้อฉลเอาเปรียบดาวน์ไลน์ โดยที่คิดว่าดาวน์ไลน์ไม่รู้ ความไว้วางใจก็จะลดลงหรือหมดไป คนที่ชอบฉ้อฉลเอาเปรียบคนนั้นเป็นคนที่คิดสั้นๆ ไม่ยาว เพราะลืมว่า ธุรกิวีบีลีฟเป็นธุรกิจสร้างเครือข่ายในระยะยาว สิ่งที่ทำจะขัดแย้งกับรูปแบบการทำงาน การ ที่จะต้องครองคนหมู่มากได้นั้นจะต้องใจแข็ง ใจกว้าง ยอมเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้ดาวน์ไลน์ก้าวหน้า ถึงแม้จะเสียเปรียบบ้างก็ตาม ในที่สุดความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรืองก็จะย้อนกลับมาหาท่านเอง

          อัพไลน์จำนวนมากที่มุ่งมั่นทำงาน ชวนคนมาสมัครทำธุรกิจมากมายแต่ไม่เคยฝึกฝน ศิลปะการครองคน ก็จะล้มเหลว เพราะดาวน์ไลน์ไม่ทำงาน ไม่ร่วมเป็น ร่วมตาย ความล้มเหลวก็ตามมา แล้วก็ตีโพยตีพาย โทษบริษัท โทษแผนการตลาด โทษอัพไลน์ไม่ช่วย โทษสิ่งแวดล้อม โทษโน่น โทษนี่ สารพัด แต่ลืมวิเคราะห์ตนเองว่า ขาดศิลปะในการครองคน ไม่ว่าจะย้ายไปกี่บริษัทก็ตามคนที่ไม่มีศิลปะในการครองคนก็จะประสบความล้ม เหลวอยู่เสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น