วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

การเงินนอกระบบ ข้อควรระวัง !



การเงินนอกระบบคืออะไร?
           ารเงินนอกระบบ คือ การทำธุรกรรมทางการเงินที่ไม่อยู่ภายใต้ระบบการควบคุม กำกับดูแลของทางการ ไม่ว่าจะเป็นระบบสถาบันการเงิน ระบบกฎหมาย หรือระบบภาษีอากร หรือไม่ได้รับการยอมรับให้เข้ามาอยู่ในระบบอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ อาจสัมพันธ์ไปถึงเศรษฐกิจใต้ดิน (เช่น การค้าน้ำมันเถื่อน การเปิดบ่อนการพนัน การค้าประเวณี การขายสินค้าหนีภาษี การคอร์รัปชั่น เป็นต้น) ซึ่งเป็นการปฏิบัติต่างๆ ของตัวแทนทางเศรษฐกิจซึ่งไม้ได้ยึดถือตามกฎระเบียบของรัฐ แต่อาจจะมีกฎระเบียบของตนเอง
          การเงินนอกระบบที่กระทรวงการคลังกำกับดูแลอยู่จะเน้นไปที่ธุรกรรมที่เข้า ข่ายเป็นการหลอกลวงหรือฉ้อโกงประชาชนในลักษณะการให้ หรือสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงและต่อเนื่อง ซึ่งเรียกความสนใจจากประชาชนให้ตกลงเชื่อได้โดยง่าย ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพียงแต่เป็นการใช้เทคนิคเงินต่อเงินหรือหมุนเวียนเงินเท่านั้น
          แต่เดิมการเงินนอกระบบเกิดขึ้นจากความจำเป็น หรือความต้องการใช้เงินส่วนบุคคล ของคนที่ไม่สามารถพึ่งแหล่งเงินจากสถาบันการเงิน ได้ เช่นธนาคารฯลฯจึงต้องหยิบยืมเงินจากคนรู้จักหรือคนใกล้ตัวเช่นญาติพี่น้องฯ ลฯต่อมาธุรกรรมทำนองนี้ได้ขยายตัวตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ และเป็นไปอย่างไม่มีระเบียบแบบแผน ประกอบกับยังไม่มีกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับการเงินนอกระบบมาใช้บังคับ เมื่อเศรษฐกิจ และสังคมเริ่มขยายตัวมากขึ้น ความต้องการเงินก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัวซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนหรือ กลุ่มคนแสวงหาผลประโยชน์จากคนที่มีความเดือดร้อนจำเป็นในการใช้เงินอย่าง เร่งด่วน โดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวงผู้ที่ไม่เข้าใจ ขาดความรู้ รู้เท่าไม่ ถึงการณ์ และถูกจูงใจโดยการอ้างผลประโยชน์ ตอบแทนในอัตราที่สูง ซึ่งได้สร้างความเสียหายให้ แก่ผู้ที่เดือดร้อน และ ในที่สุด จะกลายเป็นปัญหาของสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
          นอกจากเป็นปัญหาส่วนหนึ่งของสังคมแล้วการเงินนอกระบบยังส่งผลกระทบต่อระบบ เศรษฐกิจการเงินของประเทศโดยรวมจนทางการต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการออก กฎหมายเพื่อปราบปรามการเงินนอกระบบโดยเฉพาะขึ้นในปี พ.ศ. 2527 คือ กฎหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายนี้ ซึ่งก่อนที่กฎหมายการกู้ยืมเงินฯ จะมีผลใช้บังคับ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการกับดูแลเกี่ยว กับการเงินนอกระบบ จึงได้จัดตั้งกลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายฉบับดังกล่าว ตลอดจนปกป้องคุ้มครองประโยชน์ของประชาชน หลังจากที่บังคับใช้กฎหมายการกู้ยืมเงินฯ มาได้ระยะหนึ่ง ต่อมาเศรษฐกิจและสังคม ได้ เปลี่ยนแปลง ไปตามยุคโลกาภิวัฒน์ พฤติกรรมของผู้แสวงหาผลประโยชน์ก็ได้ปรับเปลี่ยน รูปแบบใหม่ที่ซับซ้อน กว่า เดิม และอาศัยช่องว่างของกฎหมายกระทำความผิดทำให้กฎหมายที่มีอยู่ไม่สามารถใช้ บังคับการกระทำความผิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ทางการจึงต้องมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ฉบับดังกล่าว 2 ครั้ง เพื่อให้สามารถครอบคลุม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการเงินนอกระบบมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถติดตามตรวจสอบสถานการณ์ เกี่ยวกับการเงินนอกระบบ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการเงินนอกระบบที่เอื้อต่อเศรษฐกิจของประเทศ และหยุดยั้งการเงินนอกระบบที่สร้างความเสียหายต่อสังคมมิให้ลุกลามขยายตัว ออกไปในวงกว้าง
            ปัจจุบันแม้ทางการจะมีกฎหมายหลายฉบับเป็นเครื่องมือ และมีหน่วยงานหลายแห่งดูแลกฎหมายเหล่านั้น แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเป็นหน่วยงานหลักหรือเป็นเจ้าภาพในการดูแลเรื่องการ เงินนอกระบบทั้งหมด กระทรวงการคลังจึงมีแนวคิดที่จะขยายขอบเขตภารกิจกลุ่มงานป้องปรามการเงินนอก ระบบ เพื่อดูแลเรื่องดังกล่าวและเกิดความชัดเจนในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่มี อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบใกล้เคียงกัน เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น ซึ่งจะได้มีพิจารณาในเรื่องนี้ต่อไปโดยที่ขณะนี้ มีโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน โครงการยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเศรษฐกิจนอกระบบ เพื่อป้องกันการสับสนการแบ่งงานกันทำกล่าวคือ การดำเนินงานแก้ไขปัญหาหนี้สินโดยกระทรวงการคลังได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการ ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชนขึ้น เพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับศูนย์อำนวยการต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนจังหวัด (ศตจ.) โดยตรง รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ได้ทันท่วงทีส่วนโครงการจัดทำยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเศรษฐกิจนอกระบบเป็น นโยบายที่รัฐบาลมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจการเงินนอกระบบให้มีบทบาทมากขึ้นในการสร้าง การเติมโตและความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ ลดผลกระทบทางสังคมที่ไม่พึ่งปรารถนาจากการให้บริการและประกอบอาชีพที่อยู่ นอกระบบ และสร้างความเป็นธรรมและกระจายโอกาสในการประกอบอาชีพ ซึ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมายในปัจจุบัน
          สำหรับการเงินนอกระบบ ที่กลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เป็นผู้รับผิดชอบนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการเงินนอกระบบทั้งหมด โดยการกำกับดูแล สอดส่องพฤติกรรมหรือธุรกิจที่ยังไม่เข้าระบบสถาบันการเงินหรือระบบจัดเก็บ ภาษีอากร เพื่อสนับสนุนการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจตามกระบวนการด้านการเงินการคลัง โดยมีกฎหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและกฎหมายการเล่นแชร์เป็น หลัก โดยจะเป็นแหล่งรวบรวบข้อมูล หลักฐานทางด้านปฏิบัติการ เพื่อสนับสนุนการดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมเมื่อมีการกระทำความผิด เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ

รูปแบบธุรกิจนอกระบบ
          ในระยะที่ผ่านมาลักษณะของธุรกิจการเงินนอกระบบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและนำ ความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและประชาชน มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ ดังต่อไปนี้

1.แชร์ลูกโซ่
          ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เป็นการระดมทุนจากประชาชนรูปแบบหนึ่งที่แพร่หลายและขยายตัวออกไปรวดเร็วมาก เนื่องจากจ่ายผลประโยชน์ ตอบแทนสูงในระยะแรก ตรงต่อเวลา และผู้ประกอบการมักอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่งที่ได้ผลตอบแทน สูงในระยะเวลาสั้นๆ เช่น ซื้อขายน้ำมัน ( แชร์ชม้อย ) ซื้อขายที่ดินราคาถูก ( แชร์เสมาฟ้าคราม ) แชร์นากหญ้า เป็นต้น ลักษณะของผู้ประกอบการ มีทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล โดยอาจตั้งมาในรูปบริษัทจำกัดมีหนังสือจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ โดยจะเริ่มจากการโฆษณาชักชวนประชาชน ให้มาร่วมลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ลงทุนซื้อขายน้ำมัน ที่ดิน เป็นต้น และอ้างว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ในอัตราที่สูง และจ่ายในเวลาอันรวดเร็ว เป็นเครื่องมือในการดึงดูดลูกค้า ผู้สนใจจะร่วมลงทุนต้องจ่ายเงินลงทุนสูง ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป โดยจะมีอัตราผลประโยชน์เป็นสัดส่วน และจะได้ผลประโยชน์ตอบแทน เมื่อหาสมาชิกมาร่วมลงทุนต่อกันไป จึงจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนได้

2. ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่
          ธุรกิจประเภทนี้มีวิวัฒนาการมาจากแชร์ลูกโซ่ เพียงแต่ได้เปลี่ยนวิธีการและรูปแบบในการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยการนำเอาสินค้าและบริการมาใช้บังหน้า ธุรกิจนี้จะมีการโฆษณาชวนเชื่อแอบอ้างบุคคลสำคัญ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และอวดอ้างสรรพคุณสินค้าจนเกินจริงเพื่อดึงดูดความสนใจและทำให้ราคาสินค้า สูงขึ้น ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่จะเน้นการหาสมาชิกเข้าร่วมเครือข่ายเป็น หลัก ไม่เน้นการขายสินค้า สินค้าส่วนใหญ่ที่นำมาขายตรงได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพรอัญมณีและคอร์สการเรียนหลักสูตรต่างๆกลุ่มเป้า หมายที่ตกเป็นเหยื่อของธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่มักเป็นผู้มีรายได้ ปานกลาง หรือนักศึกษาจบใหม่ที่กำลังหางานทำ ผู้ประกอบการจะใช้วิธีการลงประกาศทางหนังสือพิมพ์รับสมัครงานในตำแหน่งต่างๆ แต่แท้จริงแล้วเมื่อมีใครหลงเข้าไปผู้ประกอบการจะให้สมัครสมาชิกเพื่อทำ ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ข้อสังเกตพฤติกรรมของธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่มีดังนี้
          1. ขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่เป็นธุรกิจแอบแฝงจากธุรกิจขายตรง (MLM) มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจโดยการชักชวนประชาชนให้สมัครเป็นสมาชิก โดยมีสินค้าบังหน้าเท่านั้น สมาชิกที่เข้าร่วมธุรกิจจะได้รับผลตอบแทนในอัตราสูงตามเงื่อนไขที่กำหนด
          2.ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่มีความแตกต่างจากธุรกิจขายตรงเนื่องจาก ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่จะมีการเก็บค่าสมัครสมาชิกและบังคับให้ซื้อ สินค้าคุณภาพต่ำ ราคาสูง ไม่มุ่งเน้นการขายสินค้า แต่เน้นให้หาสมาชิกใหม่เพื่อรับผลตอบแทนจากการหาสมาชิกเพิ่ม แต่ธุรกิจขายตรงเน้นการขายสินค้าและสร้างองค์กร เพื่อให้เกิดการขายมากขึ้น รายได้เกิดจากยอดขายสินค้า
          3. ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ มีการดำเนินงานอย่างเป็นขบวนการ มีแม่ทีม มีสายงานการออกหาสมาชิกเพิ่ม หากสามารถหาสมาชิกได้มากจะได้รับผลตอบแทนสูง ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับนั้นมาจากเงินของสมาชิกใหม่ ไม่ได้เกิดจากการขายสินค้า
          นอกจากนี้ยังมีธุกิจอีกประเภทที่เข้าข่ายเป็นธุรกิจขายตรงแบบแชร์ลูกโซ่ คือการจัดสรรวันหยุดพักผ่อนแบบ Time Sharing เป็นการประกอบธุรกิจบริการ เช่น บริการสถานที่พักตากอากาศ สถานที่ออกกำลัง กาย โรง แรม รีสอร์ท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะให้บริการแก่สมาชิกเท่านั้น หากผู้ใดสนใจต้องสมัครเป็นสมาชิก โดยเสียค่าสมาชิกตามอัตราที่กำหนด เมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้วจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการท่องเที่ยว และสิทธิประโยชน์ที่สำคัญที่ทำให้คนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อของธุรกิจนี้คือ ผลประโยชน์ตอบแทนที่จะได้รับเมื่อสามารถหาสมาชิกใหม่ได้ กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจจัดสรรวันหยุดพักผ่อนแบบ Time Sharing อาจเป็นในหมู่ญาติพี่น้องที่มักถูกชักชวนจากคนใกล้ตัวให้สมัครเป็นสมาชิกและ ที่ร้ายไปกว่านั้นสมาชิกของธุรกิจนี้มากกว่า 80 % เป็นคนต่างจังหวัดที่มีฐานะยากจน แต่เพียงต้องการที่จะได้รับผลตอบแทนสูงๆจึงมาสมัครเป็นสมาชิกบางคนต้องจำนอง ที่ดินจำนำทรัพย์สินเพื่อนำเงินมาจ่ายเป็นค่าสมัครสมาชิก แท้จริงแล้วผลประโยชน์ตอบแทนที่ได้รับนั้นเกิดจากเงินที่มีคนมาสมัครเป็น สมาชิกใหม่ หากไม่สามารถหาคนมาสมัครสมาชิกใหม่ได้ก็จะไม่สามารถจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนตาม ที่ตกลงกันไว้ได้ และเมื่อถึงเวลานั้นธุรกิจจะปิดตัวลงทำให้คนที่เป็นสมาชิกได้รับความเสียหาย เป็นเงินจำนวนมากและไม่สามารถใช้สิทธิในการท่องเที่ยวได้อีกด้วย

3. การชักชวนให้ลงทุนในธุรกิจรูปแบบต่างๆ
          3.1การเก็งกำไรจากการขึ้นลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex)
          บริษัทค้าเงินเถื่อนจะลงทุนจัดตั้งบริษัทให้ดูสวยงามน่าเชื่อ เพื่อลวงลูกค้าเข้าใจผิดคิดว่าเป็นบริษัทซื้อขายเงินตราต่างประเทศที่ได้รับ อนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าวอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยแสดงใบอนุญาตอื่น เช่น แสดงใบอนุญาตจดทะเบียนบริษัทจากกระทรวงพาณิชย์ แต่โดยข้อเท็จจริงบริษัทค้าเงินเถื่อนเหล่านี้ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ประกอบ ธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินตราต่างประเทศจากกระทรวงการคลังและธนาคารแห่ง ประเทศไทย
          วิธีการที่บริษัทจะเข้าถึงบุคคลกลุ่มเป้าหมายเพื่อหลอกลวง ให้เป็นลูกค้าและเข้าลงทุน โดยจะใช้วิธีการโทรศัพท์ติดต่อชักชวนจนลูกค้าเข้าร่วมลงทุนด้วย กลุ่มเป้าหมายบริษัทส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ทำงานในอาชีพที่มีรายได้สูง ได้แก่ แพทย์ วิศวกร อาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นต้น หลังจากนั้นลูกค้าต้องเปิดบัญชีกับบริษัทในวงเงินขั้นต่ำ 200,000 บาท วางเงินมัดจำซึ่งบริษัทอ้างว่าเพื่อเป็นหลักประกันการสั่งซื้อสั่งขายกับ บริษัท โดยสามารถซื้อหรือขายเพื่อเก็งกำไรในเงินตราต่างประเทศ 4 สกุลหลัก ได้แก่ ปอนด์อังกฤษ ยูโร ฟรังก์สวิส และเยนญี่ปุ่น ซื้อขายครั้งละไม่เกิน 5 หน่วย (Unit ) และต้องเสียค่านายหน้า1,250 บาทต่อหน่วยเงินตราต่างประเทศ 1 หน่วย สำหรับค่าเงินสกุลต่างๆ จะแตกต่างกันคือ 1 หน่วยจะเท่ากับ 62 , 500 ปอนด์อังกฤษ หรือ 125 , 000 ฟรังก์สวิส หรือ12,500,000 เยนญี่ปุ่น และอัตรากำหนดซื้อขายด้วยสกุลดอลลาร์สหรัฐนั้น บริษัทจะซื้อขายโดยอ้างตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ เช่น ตลาด ฮ่องกง สิงค์โปร์ ลอนดอน และนิวยอร์ค เป็นต้น โดยผ่านเครื่องรับข่าวของสำนักข่าว BISNEWS ,TELERATE ฯลฯ ซึ่งตามข้อเท็จจริงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ปรากฎบนจอเครื่องรับ ข่าวที่แสดงไว้ ลูกค้ามาสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของจริงที่ซื้อขายในต่างประเทศหรือไม่ เมื่อบริษัทได้แจ้งว่าได้ซื้อหรือได้ขายให้ลูกค้าด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเท่าใด ลูกค้าก็ต้องเชื่อตามนั้น นอกจากนี้หนังสือสัญญาลูกค้าส่วนมากเป็นภาษาอังกฤษจำนวนหลายหน้ากระดาษ ซึ่งลูกค้าไม่ค่อยเข้าใจเพราะเป็นศัพท์เทคนิคเกี่ยวกับการค้าเงินตราต่าง ประเทศ แต่ก็ไว้วางใจเชื่อถือพนักงานของบริษัท ลูกค้าทุกรายมิได้เซ็นสัญญากับบริษัทโดยตรง มีเพียงลายเซ็นพนักงานการตลาดของบริษัทในฐานะคู่สัญญา อาจมีการประทับตราบริษัท ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่เสมอ ดังนั้น เมื่อมีปัญหาถูกหลอกลวงให้เสียเงิน ลูกค้าจึงไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบริษัทได้อีกข้อ คือ บริษัทจะโฆษณาทางหนังสือพิมพ์รับสมัครพนักงานจำนวนมากในตำแหน่งต่างๆ โดยระบุพื้นฐานความรู้ระดับปริญญาตรีทุกสาขา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ หลังการอบรม บริษัทจะคัดเลือกพนักงานให้ทดลองงานโดยให้ชักชวนคนให้มาร่วมลงทุนกับบริษัท และส่วนมากจะเริ่มจากบุคคลที่ใกล้ชิดก่อน เช่น บิดา มารดา พี่น้อง เพื่อนฝูง ซึ่งบุคคลเหล่านี้จะยอมเป็นลูกค้าของบริษัท เพราะต้องการให้บุตรหลานหรือญาติพี่น้องมีงานทำ หรือมีรายได้สูงๆ เมื่อลูกค้าขาดทุนถึงจุดที่บริษัทต้องเรียกเงินมัดจำเพิ่ม พนักงานบริษัทจะโทรให้ลูกค้าวางเงินมัดจำเพิ่ม จนกระทั่งขาดทุนในที่สุด

          3.2 การเก็งกำไรจากการขึ้นลงของราคาสินค้าเกษตร (Commodity)
          ลักษณะของธุรกิจการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ Commodity เป็นการชักชวนประชาชนให้เข้ามาร่วมลงทุน Commodity ส่วนใหญ่เป็นการอ้างว่าซื้อสินค้าเกษตรล่วงหน้าเพื่อเก็งกำไรกับตลาดซื้อขาย สินค้าเกษตรล่วงหน้าในต่างประเทศ เช่น โตเกียว ชิคาโก (ม่ใช่การซื้อขายในตลาดประเทศไทย) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการซื้อขายกันเพียงตัวเลข เพราะผู้ซื้อไม่ต้องการที่จะรับมอบสินค้า เพราะจะทำให้ผู้ซื้อเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่นค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าระวาง เป็นต้น โดยผู้ลงทุนแต่ละรายต้องมาเปิดบัญชีกับบริษัท ในวงเงินขั้นต่ำ จำนวน 3 ยูนิต ในอัตรายูนิตละ 12,000 บาท ซึ่งเรียกว่าเงินมัดจำสำรอง ( Margin Recelpt ) ในอัตราร้อยละ 5-10 ของราคาสินค้าต่อหน่วย จึงสามารถกระทำการเทรดสินค้าตามชนิดแต่ละประเภทของสินค้า ซึ่งสินค้าที่สั่งซื้อสั่งขายนั้น จะประกอบด้วย ถั่วเหลือง น้ำตาล ยางพารา กาแฟ เนื้อมะพร้าว
          สำหรับราคาสินค้านั้นจะอาศัยราคาจากสำนักงานตลาดกลางธุรกิจประเภทนี้ คือ ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สำนักงานตลาดกลางดังกล่าว จะส่งข่าวสารเกี่ยวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไปยังประเทศต่างๆ โดยผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ กรณีนักลงทุนมีกำไรจากากรเทรดสินค้าก็จะได้รับผลกำไรคืนไป หากขาดทุน หมายความถึง ราคาสินค้าลดลงนักลงทุนจะขาดทุนลอยตัว เมื่อนักลงทุนประสงค์ที่จะถือสิทธิ์การสั่งซื้อสั่งขายสินค้าต่อไป นักลงทุนต้องนำเงินมัดจำมาวางให้ครบตามเกณฑ์ของบริษัท กรณีหากผู้ลงทุนมาเปิดบัญชีและวางเงินมัดจำสำรองไว้แล้วไม่ได้กระทำการเทรด สินค้า ก็สามารถถอนเงินมัดจำไปจากบริษัทได้ครบตามจำนวนเต็ม
          แต่จากการตรวจสอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ แล้วพบว่าบริษัทเหล่านี้ไม่ได้ทำธุรกรรมตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด แต่ได้อาศัยเล่ห์เหลี่ยม กลโกงที่พนักงานบริษัทคิดค้น หรือลอกเลียนแบบมาจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างชาติหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ ต้มตุ๋น หลอกเอาเงินไปเป็นจำนวนมาก ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์พฤติการณ์ที่กล่าวข้างต้น เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ต้องรับผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 50,000 บาทถึง 1,000,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ทั้งยังต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานฉ้อโกงประชาชนอีกกระทงหนึ่งด้วย

          3.3 ธุรกิจซื้อขายดัชนีหลักทรัพย์ต่างประเทศในลักษณะเก็งกำไรจากการขึ้นลงของดัชนีหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Set Index)
          บริษัทจะใช้วิธีให้พนักงานของบริษัทติดต่อถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ บริษัทโดยตรง ได้แก่ บุคคลที่มีรายชื่อเป็นสมาชิกของสมาคมหรือองค์กรต่างๆ ผู้มีอาชีพที่มีรายได้ดี เช่น แพทย์ วิศวกร อาจารย์มหาวิทยาลัย และเจ้าของกิจการต่างๆ แล้วจะให้พนักงานของบริษัทโทรไปชักชวน หว่านล้อมต่างๆ จนลูกค้าหลงเชื่อเข้าร่วมลงทุน โดยจะให้ลูกค้าเปิดบัญชีไว้กับบริษัทเป็นเงินขั้นต่ำประมาณ 100,000-200,000 บาท และวางเงินมัดจำ (Margin) เพื่อเป็นหลักประกันการสั่งซื้อ - สั่งขายกับบริษัท โดยบริษัทอ้างว่าจะส่งคำสั่งซื้อ - คำสั่งขายไปยังตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(ดัชนีดาวน์โจนส์ ) ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง(ดัชนีฮั่งเส็ง) หรือหลักทรัพย์ญี่ปุ่น (ดัชนีนิเคอิ) เป็นต้น
          แต่แท้จริงแล้วไม่ได้มีการซื้อ - ขาย เกิดขึ้น เมื่อลูกค้าขาดทุนถึงจุดที่บริษัทต้องเรียกเงินมัดจำเพิ่ม พนักงานบริษัทจะหว่านล้อมต่างๆ ให้ลูกค้านำเงินมาลงทุนเพิ่ม หากลูกค้าไม่ยอมลงทุนเพิ่มแต่ต้องการถอนเงินคืน ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับเงินคืน โดยบริษัทจะอ้างว่าไม่มีเงินมัดจำเหลืออยู่ในบัญชีเพราะลูกค้าขาดทุนหมดแล้ว พนักงานบางคนจะหลอกให้ลูกค้ากำไรในช่วงแรกๆ แต่จะไม่ให้ถอนกำไรที่ได้โดยจะชักจูงให้ลงทุนเพิ่มเติม และเพิ่มทุนไปเรื่อยๆ หากลูกค้าต้องการถอนเงินคืนออกมาพนักงานจะถ่วงเวลาจนเงินในบัญชีไม่มีเหลือ และลูกค้าไม่อาจเรียกคืนได้

4. การเล่นแชร์
          ารเล่นแชร์ มีลักษณะของการให้สมาชิกนำเงินมารวมกันเพื่อจัดสรรให้กับสมาชิกผู้ เสนอดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนสูงสุด ( เปีย ) ได้รับเงินทุนกองกลางไปใช้ได้ โดยเริ่มต้นจากท้าวแชร์หรือนายวงแชร์ จะเป็นผู้ได้รับเงินทุนกองกลางก่อนโดยไม่ต้องเสนอดอกเบี้ยหรือผลตอบแทน ( เปีย )
การเล่นแชร์นั้นเป็นลักษณะของการออมเงินอย่างหนึ่งเพื่อเก็บเป็นเงินก้อนไว้ ใช้จ่ายเมื่อเกิดความจำเป็น โดยมีผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนในระบบสถาบันการเงิน หรืออีกนัยหนึ่งเป็นการระดมเงินทุน จากกลุ่มบุคคลที่รู้จักคุ้นเคยกันและมีอาชีพเดียวกัน
          อย่างไรก็ตาม การเล่นแชร์สามารถกระทำได้ในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น เนื่องจากพระราชบัญญัติการเล่นแชร์ พ . ศ . 2534 ซึ่งเป็นกฎหมายควบคุม กำกับ ดูแล การเล่นแชร์ ได้กำหนดห้ามมิให้ บุคคลธรรมดาเป็นนายวงแชร์ หรือจัดให้มีการเล่นแชร์ ที่มีลักษณะ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
          1. จัดให้มีการเล่นแชร์รวมกันเกินกว่า 3 วง
          2. มีจำนวนสมาชิกในวงแชร์รวมกันเกินกว่า 30 คน
          3. มีทุนกองกลางต่อ 1 งวด รวมกันทุกวงไม่เกิน 300,000 บาท
          4. ผู้จัดให้มีการเล่นแชร์ ( ท้าวแชร์ ) ได้รับประโยชน์ตอบแทนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากสิทธิที่จะได้รับทุนกลาง ในการเข้าร่วมเล่นแชร์ งวดใดงวดหนึ่งโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย

ผู้ใดฝ่าฝืน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับไม่เกินวันละ 500 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนอยู่

5. การปล่อยเงินกู้นอกระบบ
          ารปล่อยเงินกู้นอกระบบ เป็นการเงินนอกระบบรูปแบบหนึ่ง ที่มีรูปแบบของการจัดการหลากหลาย อาทิเช่น การปล่อยเงินกู้เป็นจำนวนมากให้กับประชาชนทั่วไป โดยไม่มีการทำสัญญากู้ยืมเป็นหนังสือแต่ผู้ให้กู้ยึดโฉนดที่ดินหรือหนังสือ รับรองการทำประโยชน์เป็นประกัน พร้อมกับให้ผู้กู้เซ็นใบมอบฉันทะ ไว้ โดยผู้ให้กู้จะเรียกเก็บดอกเบี้ยทุกเดือน หากผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ ผู้ให้กู้จะนำใบมอบฉันทะดังกล่าวไปดำเนินการโอนที่ดินนั้นมาเป็นของผู้ให้ กู้ หรือในกรณีที่ผู้กู้เป็นผู้มีการงานทำมั่นคง และมีเงินเดือนประจำ โดยมีทั้งการให้กู้ยืมเงินแบบทั้งมีสัญญากู้ยืมและไม่มีสัญญากู้ยืม ผู้ให้กู้จะยึดบัตรเอทีเอ็ม ของผู้กู้ไว้ และจะนำมาเบิกเงินสดเพื่อผ่อนชำระหนี้เงินกู้ผ่านธนาคาร และผู้ให้กู้จะเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง ตั้งแต่ร้อยละ 5-30 ต่อเดือน โดยในขณะนี้มีทั้งเงินกู้รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
           การปล่อยเงินกู้นอกระบบนี้ โดยส่วนมากจะเป็นนายทุนผู้มีอิทธิพลในท้องที่เป็นผู้ให้กู้หรือเป็นผู้รับ จ้างในการเรียกเก็บหนี้จากผู้กู้ โดยจะมีการข่มขู่หรือ กรรโชก หรือแม้แต่กระทั่งทำร้ายร่างกายผู้กู้ เพื่อให้ผู้กู้ชำระหนี้ ซึ่งจะเ กิดปัญหาสังคมขึ้นตามมา เนื่องจากผู้กู้เกิดความหวาดกลัว จึงต้องไปกู้ยืมเงินจากผู้ให้กู้อื่นๆที่เรียกดอกเบี้ยแพงกว่าเพื่อมาชำระ หนี้ให้กับผู้ให้กู้ ทำให้เกิดเป็นหนี้สินขึ้นไม่รู้จบ หรืออาจกระทั่งทำให้หมดเนื้อหมดตัวทำให้ที่ดินซึ่งใช้ทำมาหากินถูกยึดไปโดย ไม่ชอบการดำเนินการทางกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม . 653 กำหนดให้การกู้ยืมเงินตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้ยืม หากไม่มีจะไม่สามารถฟ้องร้องบังคับได้ตามกฎหมาย และในส่วนของดอกเบี้ยถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญากู้ จึงไม่สามารถฟ้องร้องได้ ส่วนประเด็นการนำโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ มาให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้ ไม่ถือเป็นการจำนองหรือจำนำในทางกฎหมายแต่ผู้ให้กู้จะมีสิทธิยึดหน่วงโฉนด ไว้ได้ จนกว่าผู้กู้จะชำระเงินและหากผู้ให้กู้นำใบมอบฉันทะไปจดทะเบียนโอนที่ดินไป เป็นของตน ถือเป็นการที่ผู้ให้กู้ยอมรับเอาทรัพย์สินอย่างอื่นแทนจำนวนเงิน ดังนั้นต้องคิดราคาที่ดินเท่ากับราคาที่ดินตามท้องตลาดในเวลาและสถานที่ส่ง มอบ ถ้าไม่ตกลงตามนี้ข้อตกลงดังกล่าวตกเป็นโมฆะ ในประเด็นที่มีการเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดนั้น ถึงแม้ว่ามีการทำสัญญากู้ยืมเงินกันถูกต้องตามกฎหมาย หากดอกเบี้ยที่นายทุนเรียกเก็บเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ถือเป็นโมฆะตามกฎหมาย ซึ่งผู้กู้ไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ทั้งยังโทษทางอาญาคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ . ศ . 2475

คัดมาจาก www.mof.go.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น