วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ให้บุคลิกที่ดี...นำคุณสู่ความสำเร็จ

Post Today.com - มีผู้ตั้งคำถามเข้ามาว่า ถ้าต้องการก้าวสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะในอาชีพการงาน จะต้องเตรียมตัวอย่างไร เตรียมบุคลิกภาพอย่างไร เป็นคำถามที่น่าสนใจค่ะ ...ก่อนอื่นดิฉันขอเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่า คนในทุกสาขาอาชีพล้วนต้องการประสบความสำเร็จ ไม่แปลกและไม่ผิด แต่ คำถามของพวกเขาก็คือ ความสำเร็จที่รออยู่หลังประตูนั้น เขาจะหากุญแจที่ไหนไขเข้าไปหาได้ไม่ยากหรอกค่ะ ขอแค่ให้รู้ว่ากุญแจที่ต้องไขนั้น เป็นกุญแจชนิดใด และล็อกไว้แน่นหนาสักกี่ชั้น

เริ่มจากทั่วๆ ไปก่อนดีไหมคะ...

     ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสาขาอาชีพใด กุญแจลูกแรกๆ ที่คุณจะต้องใช้สำหรับไขประตูสู่ความสำเร็จก็คือ

1.ความรู้และความชำนาญ

คุณต้องมีความรู้ในการงานของคุณค่ะ รู้ยังไม่พอ ต้องชำนาญด้วย คนที่มีความรู้ มีมากมายถมไปค่ะ แต่คนที่มีความชำนาญเท่านั้นล่ะ ที่ใครต่อใครจะเรียกหา

2.ความน่าเชื่อถือหรือน่าไว้ใจ

ชำนาญอย่างเดียวแล้วยังไง ถ้าเชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ได้ ไม่ว่าจะโดยความซื่อตรงก็ดี ความรับผิดชอบก็ดี ความเสียสละทุ่มเทก็ดี ความมีมิตรจิตมิตรใจก็ดี ล้วนนำมาซึ่งความเชื่อถือและความไว้ใจ

3.เข้าสังคมได้และเป็นหน้าเป็นตาได้

ทุกบริษัท ทุกสำนักงาน ทุกหนทุกแห่งมีผู้รู้ มีผู้ชำนาญ ที่ใช้งานได้ ไว้ใจได้ แต่มีกี่คนคะ ที่ “ออกงาน” ได้ ตรงนี้แหละค่ะ คือหัวใจสำคัญ

คนที่จะออกงานได้ และไม่ทำให้องค์กรเสียหน้า คือคนชำนาญงานที่บริษัทไว้ใจและรู้จักพูดจา รู้จักมารยาททางสังคม มีมนุษยสัมพันธ์ มีเสน่ห์ และมีความดึงดูดอยู่ในตัว

แล้วบุคลิกลักษณะภายนอกล่ะ สำคัญไหม สำคัญค่ะ แต่ไม่ใช่ที่สุด!

ทุกคุณสมบัติที่จะกล่าวต่อไปนี้ ไม่มีข้อไหนสำคัญที่สุด หรือมุ่งให้คุณทำเพียงแค่ข้อใดข้อหนึ่ง ทุกๆ ข้อมีความสำคัญเหมือนกันหมด ดังนั้น คุณจึงต้องใส่ใจกับการเตรียมคุณสมบัติของตัวเองให้พร้อมใช้ในทุกๆ ข้อ ซึ่งควรจะประกอบไปด้วย

1.ภาพลักษณ์ภายนอก (กาย)

คือสิ่งที่ทุกๆ คนมองเห็น ตั้งแต่ปราดแรกที่พวกเขามองเข้ามา ตั้งแต่เสี้ยววินาทีแรกที่คุณปรากฏตัว เขาจะเริ่มประเมินคุณตั้งแต่ คุณดูเป็นมิตรไหม ยิ้มแย้มแจ่มใสดีหรือเปล่า หน้าตาผมเผ้าของคุณเป็นอย่างไร การแต่งกาย การเดินการเหิน ฯลฯ

คำแนะนำของดิฉันก็คือ เตรียมมันให้พร้อม!

บริษัทใดมียูนิฟอร์มที่สุภาพ สวยงาม และเข้ากับทุกกาลเทศะอยู่แล้ว ให้ใช้เครื่องแบบนั้น เพราะดูเป็นกลาง เป็นสากล เป็นบุคคลที่มีสังกัด ไม่โดดเดี่ยว ไร้ชื่อ ไร้ที่มา จะทำให้คุณดูน่าเชื่อถือ แม้ยังไม่ทันเอ่ยปากพูดอะไรออกไป แต่หากไม่มีเครื่องแบบ ใช้สูททั่วๆ ไป สีสุภาพๆ อย่าง เทา ดำ น้ำเงิน น้ำตาล พอดีตัว สะอาดสะอ้าน และเนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ทรงผมเป็นระเบียบ สวยงาม รับกับวัยและใบหน้า จัดการกับกลิ่นตัวซะ (ถ้ามี) เดินให้สง่างามและมีความมั่นใจ มองไปยังทุกๆ คน และหยุดลงที่บุคคลสำคัญ ในกรณีที่อยู่กับลูกค้าตัวต่อตัว มองเขาและให้ความสำคัญกับเขา ยิ้มแย้มแจ่มใส และทักทายก่อนเสมอ เท่านี้คุณก็จะได้ใจเขาไปครอง

2.วาจา

ต่อมาคุณก็ต้องเอื้อนเอ่ยวาจาทักทายกัน น้ำเสียงของคุณควรฝึกฝนให้พูดจาฉะฉาน มีกังวาน ไม่เร็วไม่ช้า-น่าฟัง สุ้มเสียงแจ่มใส ตื่นตัว พร้อมที่จะสนทนาด้วยอย่างเต็มใจ ไม่เบาหรือดังเกินไป ไม่สูงหรือต่ำเกินไป

หากคุณเป็นพนักงานขาย พูดในสิ่งที่คุณรู้และลูกค้าควรได้ฟัง เหมือนเล่าให้คนที่เรารักสักคนหนึ่งฟังอย่างเต็มใจ เป็นมิตร และชวนให้รู้สึกเป็นพวกเดียวกัน อย่าจ้องแต่จะเป็นพนักงานขาย จงเป็นเพื่อนของลูกค้า ประหนึ่งว่าชวนกันมาทดสอบสินค้า แล้วจึงช่วยกันตัดสินใจ

หากคุณเป็นวิทยากร พิธีกร ประชาสัมพันธ์ บอกกล่าว บอกข่าว หรือบรรยายถึงความรู้ตามหัวข้อที่กำหนดออกไป ด้วยความมั่นใจ เชื่อมั่นในตนเอง เชื่อมั่นในข้อมูลและความรู้นั้น พร้อมๆ กับทำให้ผู้ฟังเชื่อมั่นต่อสิ่งเหล่านี้ด้วย

พูดให้น่าฟัง พูดให้น่าติดตาม พูดให้มีประเด็น ไม่สับสน เสียงดังฟังชัด สดชื่น และกวาดสายตามองไปยังทุกคน (กรณีที่เป็นการบรรยาย หรืออยู่บนเวที)

คิดให้ง่ายที่สุดว่า หากคุณเป็นเขา คุณคาดหวังว่าจะได้ยินอะไร อย่างไร

3.ทัศนคติ (ใจ)

คุณต้องเป็นคนใจกว้าง กว้างยิ่งกว่าอาชีพใดๆ ในโลก เพราะอาชีพหรืองานที่ต้องข้องเกี่ยวกับการพูด ทำให้คนเชื่อ ทำให้คนติดตาม เป็นงานที่จะเห็นผลในทันใด ซึ่งมันมักจะกระทบใจ กระทบอารมณ์ของคุณได้อย่างเฉียบพลัน แถมอาจมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาในบัดดล ต้องอดทน รับฟัง ได้ยิน และน้อมรับเสียงเหล่านี้

จงมีใจที่แจ่มใส เข้าใจ และกรุณาต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เป็นมิตร ทุกคนคือมิตรของคุณ แม้กระทั่งลูกค้าที่คุณปรารถนาอุปสงค์ในการซื้อของเขาอย่างมากก็ตาม

จงให้โอกาสเขา โอกาสที่เขาจะเชื่อถือหรือไม่เชื่อถือในคำพูดของคุณ แต่คุณจะพยายามอย่างที่สุดที่จะสร้างความเชื่อถือนั้นให้เกิดขึ้น อย่างบริสุทธิ์ใจ

และจงเชื่อมั่นในงานของคุณ อาชีพของคุณ บริษัทของคุณ ความรู้ของคุณ หรือสินค้าของคุณ ภูมิใจที่จะนำเสนอมัน มีความสุขที่จะได้แนะนำ หรือกล่าวถึงมัน อยากให้คนทั้งโลกได้เข้าถึงมัน

เห็นไหมคะว่า กุญแจ 3 ดอกที่ดิฉันให้ไปไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่เราก็รู้ๆ กันอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยจะได้ทำกัน เมื่อเราตระหนักรู้ในความรู้เดิมที่มีอยู่แล้วเหล่านี้ หน้าที่ของท่านผู้อ่านก็คือ ทำให้ชำนาญ และเป็นจิตวิญญาณของคุณเท่านั้น

คุณเคยเจอพนักงานขายที่เราดูก็รู้ว่าเขาไม่รักในสินค้าของเขา ไม่เชื่อในสินค้าของเขา แต่อยากได้รายได้จากมันจริงไหมคะ คุณอาจเคยเจอประชาสัมพันธ์ที่ไม่อยากยิ้มกับเรา แต่เขามีหน้าที่ต้องยิ้มกับเรา เราจึงได้เห็น “รอยยิ้มของหน้าที่”

คุณอาจเจอพนักงานลูกค้าสัมพันธ์ที่ประกายตาของเจ้าหล่อนไม่อยากสัมพันธ์กับเราเลย คุณย่อมขนลุกขนชัน

คุณอาจได้ฟังวิทยากรที่พร่ำพรรณนาถึงความรู้ของเขา แต่คุณไม่เห็น “ความเชื่อ” ของเขาปรากฏในขณะที่เขาพรรณนาเลย

จึงไม่มีอะไรสำคัญเท่าทำองค์ประกอบทั้งสามให้เป็นเลือดเนื้อ ชีวิต และจิตใจของคุณ ขอแค่คุณตระหนักอย่างแท้จริงว่า กาย วาจา และใจ สำคัญอย่างไร ขั้นตอนต่อจากนั้นก็แค่หาวิธีทำอย่างไรให้ทรงผมเราดูดี แต่งหน้าได้ดี ยิ้มได้มีเสน่ห์ พูดจาน่าฟัง ฉลาด ฉะฉาน และจริงใจ ฝึกน้ำเสียงให้สดชื่นคล่องแคล่วและจูงใจ ฯลฯ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องสวยที่สุดหรือหล่อที่สุดในบริษัท

การฝึกฝนในรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านี้ทำได้ไม่ยาก แต่การ “หลอมรวม” ตัวเองให้เข้ากับสิ่งที่ต้องทำและต้องเป็นสิคะ ยากกว่า แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่า คนที่ตั้งใจจริงและสนุกกับมัน จะทำได้ และก้าวสู่ความสำเร็จได้ก่อนคนอื่นๆ เชื่อเถอะค่ะ




ขอบคุณบทความจาก : Korn2551

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น